-ดินเหนียวธรรมชาต
-แป้นหมุน
-เครื่องโม่ดิน
-เตาเผา
-เตาเผา
-จอบ เสียม หรือพลั่ว
-ตระแกรงร่อนดิน
-อุปกรณ์ในการแกะลวดลาย
วิธีการทำ
1. นำดินเหนียวธรรมชาติมาซอย
(เซี้ยมในให้เป็นแผ่นบาง หมักน้ำโดยประมาณไว้ก่อน) แล้วจึงนำดินมาเข้าเครื่องโม่
(สมัยโบราณใช้วิธีเหยียบและนวดก่อนนำมาปั้น)
2. เมื่อได้ดินจากการโม่แล้ว จึงนำมาขึ้นรูปด้วยแป้นหมุน
ตามแบบและขนาดของเครื่องปั้นที่ต้องการตามรูปต่างๆ เช่น กระปุก หม้อ คนโท
ขันน้ำ พานรอง
จนปัจจุบันดัดแปลงมาเป็นโคมสำหรับใช้กับหลอดไฟฟ้า
(เพื่อเข้ากับสมัยและยุคปัจจุบันพร้อมทั้งให้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น)
3. นำผลิตภัณฑ์ที่ปั้นแล้วออกผึ่งแดด ผึ่งลม
พอความแข็งตัวของเนื้อดินจับยกได้ โดยไม่ทำให้เสียรูปทรง
จึงนำขึ้นแป้นขูดแต่งอีกครั้ง
เพื่อให้ได้รูปทรงและความหนาบางของเนื้อดินตามแบบและความต้องการจนเสร็จ
4. จากนั้นจะผึ่งไว้จนเนื้อดินมีความแข็งตัวพอที่จะขัด
หรือขูดแต่งให้เรียบร้อยสวยงามอีกครั้งแล้วจึงนำไปเข้าเตาเผา
การขึ้นรูป
1. ปั้นวิธีอิสระ ( Free hand ) หรือการปั้นด้วยมือ
( Building by hand ) เป็นการปั้นให้มีรูปเหมือนของจริงหรือเป็นการปั้นภาชนะเครื่องใช้ต่าง
ๆ ด้วยมือ เป็นการปั้นที่ใช้ในการทำแม่แบบเพื่อนำไปทำแบบปูนพลาสเตอร์มีเครื่องใช้
คือ ไม้สำหรับตีให้มีรูปกลม มีก้อนหินสำหรับรองรับภายใน
2. ปั้นบนแป้นหมุน ( Throwing on the Potter's Wheel ) การปั้นบนแป้นหมุนจะปั้นได้เฉพาะภาชนะที่มีรูปกลมหรือทรงกลม
แบ่งออกเป็น 2 อย่าง
2.1 ปั้นครั้งเดียวเสร็จ
เป็นการปั้นของขนาดเล็ก เช่น แจกัน อ่าง กระถาง หรือโอ่งขนาดเล็ก
2.2 ปั้นสองตอนหรือสามตอน
เป็นการปั้นของขนาดใหญ่ใช้วิธีปั้นตอนล่างก่อน ผึ่งให้หมาด
ขดดินต่อขึ้นไปแล้วนำไปรีดบนแป้นหมุนนำไปผึ่งให้หมาดแล้วต่อขึ้นไปอีกตอนหนึ่ง
ถ้าเป็นสามตอนแล้วจึงรีดบนแป้นหมุน ทำเป็นปาก เช่น การปั้นโอ่งเคลือบราชบุรี
การปั้นแบบนี้ต้องมีการวัดส่วนสูงและความกว้างของปากและก้นเพื่อให้มีขนาดเท่ากัน
แต่ถึงกระนั้นก็ดี ความหนาก็ยังแตกต่างกันอยู่

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial 4.0 International License.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น